กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะการขับขี่รถให้ช่วยลดปริมาณค่าฝุ่น 2.5 และมลพิษทางอากาศตรวจสภาพเครื่องยนต์รถทันทีหากมีเขม่าควันดำมากกว่าปกติ ถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่น 0.3 ไมครอนได้ ไม่โมดิฟายเครื่องยนต์ ขับรถโดยใช้ความเร็วคงที่และไม่เร่งเครื่องยนต์ ไม่ควรจอดรถแล้วสตาร์ททิ้งไว้ รวมถึงลดการใช้รถยนต์หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน เพื่อช่วยลดปริมาณควันพิษทางอากาศ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการใช้รถในการเดินทางโดยเฉพาะบริเวณเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หากระบบเครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ จะทำให้เกิดเขม่าและควันดำสะสมในอากาศปริมาณมาก เป็นตัวการที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงขอแนะวิธีขับขี่รถให้ช่วยลดปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ ดังนี้ ไม่ขับโดยเหยียบคันเร่ง ให้ขับรถด้วยความเร็วคงที่จะช่วยลดปริมาณของควันพิษ พร้อมตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบการทำงานของเครื่องยนต์ หากพบควันดำจากท่อไอเสียมากกว่าปกติ ควรนำรถไปให้ช่างตรวจเช็กทันที รวมถึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันทุก ๆ 6 เดือน ทำความสะอาดกรองอากาศไม่ให้อุดตัน โดยใช้แผ่นกรองแอร์ชนิด HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นได้ถึง 0.3 ไมครอน รวมทั้งไม่ปรับแต่งหรือโมดิฟายเครื่องยนต์ และท่อไอเสีย ควรใช้เครื่องยนต์เดิมจากโรงงานเพื่อไม่ให้เกิดเขม่าและควันดำจากเครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รวมถึงหลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด จะช่วยป้องกันเครื่องยนต์ทำงานหนักจนเกิดควันดำ อีกทั้งเมื่อจอดในสถานที่จอดรถ ควรดับเครื่องทุกครั้ง ไม่สตาร์ทรถยนต์ทิ้งไว้ เพื่อลดการปล่อยมลพิษด้านฝุ่นละอองทางอากาศที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์ ไม่จอดรถติดเครื่องยนต์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดควันสะสมในปริมาณมาก นอกจากนี้ ร่วมมือร่วมใจช่วยกันลดฝุ่นละออง ในอากาศ ลดการใช้รถยนต์เปลี่ยนใช้รถบริการสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวให้มากขึ้น เลือกใช้รถพลังงานไฟฟ้าหรือใช้วิธีไปทางเดียวกันไปด้วยกัน ก็สามารถร่วมกันช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้ ที่มา FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM